วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การใช้เกียร์

ก่อนอื่นต้องมาเรียนวิธีการเข้าเกียร์ให้ถูกต้องก่อน ดูตามวีดีโอได้เลยค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=4QaxOC3U4v0


**ผู้คุมสอบมักชอบดูว่าคุณจับเกียร์ได้อย่างถูกต้องหรือเปล่าซึ่งถือเป็นความปลอดภัยอย่างหนึ่ง***
การเพิ่มเกียร์ ให้เหยียบคันเร่งก่อนเสมอ เพื่อเพิ่มความเร็วให้ได้ความเร็วที่สัมพันธ์กันแล้วจึงเข้าเกียร์สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
การลดเกียร์ ให้เหยียบคันเบรคก่อนเสมอเพื่อลดความเร็วลงมาให้ได้ความเร็วที่สัมพันธ์กันแล้วจึงถอยเกียร์ลงมา

การลดเกียร์ให้ดูตามวีดีโอค่ะ สามารถดูได้จากวีดีโอค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=DhBZqd2FD3Q

**ตั้งแต่นาทีที่ 2,51 หลักการก็คือแป้นเบรคเป็นสิ่งที่เราเหยียบอันดับแรกและปล่อยเป็นสิ่งสุดท้าย **

การเปลี่ยนเกียร์นั้นใช้หลักการวัด 3 หลักการด้วยกัน แล้วแต่ความถนัด คือ
1. เสียงของเครื่องยนต์
2. ความเร็วของรถ (ดูจากมาตรวัดความเร็ว)
3. จำนวนรอบของเครื่องยนต์ (รอบหมุนของมอเตอร์หน่วยเป็น จำนวนรอบต่อนาที TR/MN) ดูจากมาตรวัดจำนวนรอบของเครื่องยนต์

ความเร็วของรถ

ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วและเกียร์บนทางเรียบ มีดังนี้

เกียร์ 1 ความเร็ว 0-20 กม./ชั่วโมง
เกียร์ 2 ความเร็ว 20-40 กม./ชั่วโมง
เกียร์ 3 ความเร็ว 40-60 กม./ชั่วโมง
เกียร์ 4 ความเร็ว 60-80 กม./ชั่วโมง
เกียร์ 5 ความเร็ว 80 - 110 กม./ชั่วโมง
เกียร์ 6 ความเร็ว > 110 กม./ชั่วโมง

เสียงของเครื่องยนต์ ตอนเรียน code คงจะอ่านหนังสือมาบ้าง
sur-régime เช่นใช้เกียร์ 1 ในขณะที่ใช้ความเร็วอยู่ที่ 30 กม./ชั่วโมง , เกียร์ 2 ในขณะที่ใช้ความเร็วอยู่ที่ 50 กม./ชั่วโมง สัญญานที่บอกก็คือเสียงเครื่องยนต์ที่ดังมากกว่าปกติ
ข้อดีก็คือ ความแรงเพิ่มมากขึ้น ใช้สำหรับกรณีสำหรับการไต่ขึ้นเขา หรือ การแซง หรือการเสียบเข้าทางด่วนหรือวงแหวน ข้อเสียก็คือเปลืองน้ำมันมาก
sous-régime คือการเข้าเกียร์ที่สูงกว่าเร็วเกินไป เช่น การเข้าเกียร์ 2 ในขณะที่ความเร็วอยู่ที่ 10 km/h ดูได้จากรถวิ่งอืดถึงแม้จะเหยียบคันเร่งเต็มที่ หรือบางทีเครื่องยนต์ดับ นั่นคือ ความแรงของรถไม่มี
จำนวนรอบของเครื่องยนต์

1. การเพิ่มเกียร์นั้นสามารถดูจากจำนวนรอบของเครื่องยนต์ เมื่อมอเตอร์หมุนอยู่ที่ 2000 - 2100 TR/mn (รอบ/นาที) ให้เปลี่ยนเกียร์สูงกว่าขึ้นไป
2.การลดเกียร์ (rétrograder) ดูจากจำนวนรอบของเครื่องยนต์ เมื่อมอเตอร์หมุนอยู่ที่ 1500 - 1000 TR/mn (รอบ/นาที) ให้ลดเกียร์ลงมา

** ทั้งนี้ทั้งนั้นนิยมใช้วิธีฟังเสียงเครื่องยนต์เพื่อความปลอดภัย เพราะการดูมาตรวัดนั้นแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ**

Note :

1. เกียร์ 1 ใช้เมื่อรถหยุดสนิทหรือเกือบสนิท หรือระหว่างรอติดไฟแดง (ถ้าเราคิดว่าเราเป็นพวกเข้าเกียร์ช้า ก็เข้าเกียร์ 1 ค้างไว้ แต่ในขณะสอบการเข้าเกียร์ 1 ค้างบ่อยๆ จะทำให้ไม่ได้คะแนนในหัวข้อประหยัดน้ำมัน)
2.เวลาจะเข้าวงเวียนต้องเข้าด้วยเกียร์ 2 ทุกครั้งอย่าเหยียบคลั๊ซค้าง มันจะทำให้เกิดอาการ roue libre มีผลทำให้สอบตกแบบทันที (éliminatoire) โดยไม่ต้องลุ้นคะแนน
3.การที่เตรียมจอดติดไฟแดงนั้นต้องจอดด้วยเกียร์ 2 ยกเว้นกรณีเจอไฟส้มกระชั้นชิดสามารถจอดโดยใช้เกียร์ 3 ไม่ผิดกติกา
4. ในเมืองหากถนนนั้นเป็นเส้นตรง ไม่มีทางแยก สามารถใช้เกียร์ 4 โดยคงความเร็วไม่เกิน 50 km/h ข้อนี้เวลาสอบจะได้ + 1 คะแนน หัวข้อประหยัดน้ำมัน 5. จอดติดไฟแดงให้เข้าเกียร์ว่าง ( point mort ) เสมอ บางโรงเรียนให้นร.เข้าเกียร์ 1 ค้างเวลาที่เด็กเข้าเกียร์ไม่ทัน คำแนะนำคือ เข้าเกียร์ว่างจะดีกว่า เพราะจะได้คะแนนเพิ่ม 1 คะแนน หัวข้อประหยัด แต่ถ้าไม่ชินก็เข้าเกียร์ 1 ค้างไว้ก็ได้